เวทีดังกล่าวจะรวมผู้นำ ความคิด และนักพัฒนาจากทั่วโลก เพื่อหารือแนวโน้มล่าสุดในโลกวิทยาศาสตร์ ตั้งแต่การสร้างระบบนิเวศนวัตกรรมในระดับโลก ไปจนถึงการกำกับดูแลเทคโนโลยีข้ามพรมแดน ความคืบหน้าของเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) ภายในปี 2573 ของสหประชาชาติ รวมถึงเทคโนโลยีสุดล้ำในอนาคต เช่น วิทยาศาสตร์ชีวภาพ ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ยานยนต์แห่งอนาคต และเทคโนโลยีควอนตัม
ISTIF เกิดขึ้นครั้งแรกในปี 2562 ด้วยวิสัยทัศน์ของ BFA ที่ต้องการสร้างพื้นที่กลางให้ภาครัฐ ภาคธุรกิจ และภาควิชาการจากทั้งจีนและนานาชาติ ได้ร่วมแลกเปลี่ยนความรู้และขับเคลื่อนความร่วมมือในโลกนวัตกรรม ความสำเร็จของเวทีนี้ในเมืองต่าง ๆ เช่น มาเก๊า (2563), กว่างโจว (2565) และจูไห่ (2566) ได้สร้างรากฐานให้เกิดเครือข่ายความร่วมมืออย่างเป็นรูปธรรม โดยเฉพาะในเขต Greater Bay Area ที่เป็นหนึ่งในพื้นที่เศรษฐกิจสำคัญของจีน อีกทั้งยังช่วยสนับสนุนการขับเคลื่อนโครงการ Belt and Road รวมถึงการวางแนวทางการกำกับดูแล AI ในระดับนานาชาติ
ฮ่องกงมีบทบาทสำคัญในฐานะประตูเชื่อมจีนกับประเทศต่าง ๆ ในเอเชียแปซิฟิกและทั่วโลก อีกทั้งตลอดหลายปีที่ผ่านมา เมืองที่ได้ชื่อว่าเป็นศูนย์กลางทางการเงินแห่งนี้ยังได้เดินหน้าพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง การเป็นเจ้าภาพ ISTIF ครั้งนี้ จึงจะยิ่งเสริมสร้างภาพลักษณ์ของฮ่องกงในฐานะ “สุดยอดผู้เชื่อมโยง” (super-connector) และ “สุดยอดผู้สร้างมูลค่าเพิ่ม” (super value-adder) ระหว่างจีนกับนานาชาติ
ในยุคที่เทคโนโลยีเปลี่ยนโลกอย่างรวดเร็ว ความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ได้สร้างโอกาสอันยิ่งใหญ่ แต่ก็พาเรามาสู่โจทย์ใหม่ ๆ เช่น ความปลอดภัยของข้อมูล จริยธรรมทางเทคโนโลยี และการปกป้องความเป็นส่วนตัว ซึ่งล้วนเป็นประเด็นที่ต้องการความร่วมมือและกรอบกำกับดูแลร่วมกันในระดับสากล การจัด ISTIF ที่ฮ่องกงในปี 2568 จึงมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการพัฒนากรอบการกำกับดูแลวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีระดับโลก ส่งเสริมการเติบโตของเทคโนโลยีล้ำสมัยและอุตสาหกรรมแห่งอนาคต รวมถึงยกระดับความร่วมมือระหว่างประเทศให้ก้าวหน้าไปอีกขั้น