เมืองไป่เซ่อในเขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง กลายเป็นที่จับตามองของทั่วโลก หลังภาพถ่ายฝีมือช่างภาพชาวจีน “เหลียง เค่อ” ได้รับคัดเลือกให้ปรากฏในปฏิทินปี 2568 ขององค์การอุตุนิยมวิทยาโลก (WMO) ซึ่งเป็นหน่วยงานในเครือสหประชาชาติ
ภาพดังกล่าวมีชื่อว่า Electric Roasted Sea Bass โดยถ่ายทอดช่วงเวลาที่สายฟ้าฟาดลงบนท้องฟ้ายามค่ำคืน เหนือแม่น้ำโย่วเจียงซึ่งสะท้อนแสงจากเมืองที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวา เสน่ห์ของธรรมชาติผสมผสานกับพลังแห่งสภาพอากาศกลายเป็นภาพที่น่าตื่นตาตื่นใจ และถือเป็นเพียงภาพเดียวจากประเทศจีนที่ได้รับเลือกในปีนี้ ท่ามกลางภาพถ่ายจากนานาชาตินับหมื่น
หลังได้รับคัดเลือก ภาพถ่ายนี้ก็ได้รับการเผยแพร่ในช่องทางอย่างเป็นทางการของ WMO รวมถึงแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียระดับโลก เช่น เฟซบุ๊ก อินสตาแกรม ฟลิคเกอร์ และลิงด์อิน กลายเป็นกระแสพูดถึงในหมู่ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตทั้งชาวจีนและชาวต่างชาติ
เมืองไป่เซ่อเองก็ไม่หยุดเพียงแค่ความสวยงามทางธรรมชาติ แต่ยังเดินหน้าอย่างจริงจังในด้านการพัฒนาเมืองอย่างยั่งยืน โดยในปี 2567 เมืองนี้ได้รับสถานะเป็นเมืองนำร่องของประเทศในการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และยังถูกบรรจุในรายชื่อโครงการนำร่องระดับประเทศด้านการควบคุมมลพิษยุคใหม่ด้วย
ในด้านคุณภาพสิ่งแวดล้อม ไป่เซ่อก็ทำผลงานได้โดดเด่นเช่นกัน สถานีตรวจวัดน้ำผิวดินทั้งระดับประเทศและระดับภูมิภาคกว่า 20 แห่งต่างมีผลวัดค่าที่ได้มาตรฐานติดต่อกันหลายปี ทำให้เมืองนี้ติดอันดับ 9 ของประเทศจีนในด้านคุณภาพน้ำ และมีสถิติคุณภาพอากาศที่ดีถึง 98.4% ในปีเดียวกัน
ด้วยระบบนิเวศที่สมบูรณ์มากขึ้น สัตว์หายากหลายชนิดจึงกลับมาปรากฏตัวในพื้นที่เขตอนุรักษ์ของเมือง เช่น แมวดาวและนกกระทาไห่หนานที่มักพบในเขตสงวนแม่น้ำเฉิงไป่ ขณะที่เป็ดปากยาวข้างลาย ซึ่งได้ฉายาว่า “แพนด้าแห่งนก” ก็อพยพมาพักพิงช่วงฤดูหนาวที่นี่ต่อเนื่องยาวนานกว่าทศวรรษ
เมื่อไม่นานมานี้ ยังมีการพบเห็นนกกระสาขาวตะวันออก ซึ่งเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองระดับสูงสุดของประเทศ ในพื้นที่เมืองซื่อหวงของเขตโย่วเจียงเป็นครั้งแรก นอกจากนี้ เมืองยังได้รายงานผลความคืบหน้าในการดูแลเขตอนุรักษ์ธรรมชาติชะนีป้างเหลียง และเขตรักษาพันธุ์กล้วยไม้เยี่ยฉางต่อกระทรวงนิเวศวิทยาและสิ่งแวดล้อมจีน
ดร. วั่น หรง นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยเกษตรจีน แสดงความคิดเห็นว่า เมืองไป่เซ่อมีศักยภาพด้านทรัพยากรธรรมชาติและระบบนิเวศในระดับที่โดดเด่น และสามารถนำจุดแข็งเหล่านี้ไปต่อยอดเป็นอุตสาหกรรมอาหารสุขภาพและสมุนไพร สร้างห่วงโซ่อุตสาหกรรมตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ โดยเชื่อมโยงทรัพยากรธรรมชาติเข้ากับการแปรรูปและการสร้างแบรนด์ ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจสีเขียวควบคู่ไปกับการรักษาสิ่งแวดล้อม