ทำความรู้จักโครงการ “สองประเทศ นิคมอุตสาหกรรมแฝด” สะพานเชื่อมเศรษฐกิจจีน-อินโดนีเซีย

จีนและอินโดนีเซียเดินหน้ากระชับความร่วมมือทางเศรษฐกิจครั้งสำคัญ ผ่านโครงการ “สองประเทศ นิคมอุตสาหกรรมแฝด” (“Two Countries, Twin Parks” หรือ ) ซึ่งถือเป็นกลไกใหม่ในการเชื่อมโยงห่วงโซ่อุตสาหกรรม การค้า และการลงทุนทวิภาคี

โครงการนี้มีแนวคิดหลักในการจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมในดินแดนของอีกฝ่าย เพื่อใช้ประโยชน์จากสิ่งอำนวยความสะดวกและนโยบายต่าง ๆ ที่เอื้ออำนวย ฝั่งจีนได้จัดตั้งเขตการลงทุนหยวนหง ด้วยพื้นที่ขนาด 61 ตารางกิโลเมตร ในเมืองฝูโจว ซึ่งเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจชายฝั่งที่สำคัญ ขณะที่อินโดนีเซียได้พัฒนานิคมอุตสาหกรรมสามแห่ง ได้แก่ บินตัน อาเวียร์นา และบาตัง ครอบคลุมพื้นที่รวมกว่า 87 ตารางกิโลเมตร

หนึ่งในตัวอย่างความสำเร็จล่าสุด คือการนำเข้ามะพร้าวสดล็อตแรกน้ำหนัก 200 กิโลกรัมจากอินโดนีเซียมายังฝูโจว ซึ่งเป็นก้าวสำคัญที่แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของเขตการลงทุนหยวนหงในการพัฒนานิคมอุตสาหกรรมมะพร้าวในจีน อีกทั้ง การนำเข้ามะพร้าวครั้งนี้ยังเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนห่วงโซ่อุตสาหกรรมครบวงจรตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ ซึ่งส่งเสริมความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้าระหว่างจีนกับอินโดนีเซีย

โครงการ “สองประเทศ นิคมอุตสาหกรรมแฝด” ให้ความสำคัญกับ 5 กลุ่มอุตสาหกรรมหลัก ได้แก่ การประมงทะเล การเกษตรเขตร้อน อุตสาหกรรมเบาและสิ่งทอ เครื่องจักรและอิเล็กทรอนิกส์ และการทำเหมืองที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม  โดยทั้งสองฝ่ายยังร่วมมือกันสำรวจรูปแบบการแบ่งงานระหว่างประเทศ พร้อมทั้งผสานห่วงโซ่อุตสาหกรรม ห่วงโซ่อุปทาน และห่วงโซ่คุณค่าเข้าด้วยกันอย่างมีประสิทธิภาพ

จนถึงปัจจุบัน มีโครงการทวิภาคีมากกว่า 70 โครงการที่เปิดตัวแล้ว คิดเป็นมูลค่าการลงทุนรวมกว่า 9.3 หมื่นล้านหยวน ซึ่งช่วยผลักดันทั้งการค้า การลงทุน และการแลกเปลี่ยนเทคโนโลยีระหว่างจีนกับอินโดนีเซียอย่างมีนัยสำคัญ

ทั้งนี้ โครงการ “สองประเทศ นิคมอุตสาหกรรมแฝด” ไม่เพียงเป็นสะพานเชื่อมเศรษฐกิจระหว่างสองประเทศ แต่ยังเสริมสร้างรากฐานของโครงการหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง (Belt and Road Initiative) ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างแข็งแกร่งยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในวาระครบรอบ 75 ปีการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างจีนและอินโดนีเซียในปีนี้