ขิ่น หม่อง ซอ (Khin Maung Zaw) เลขาธิการสถาบันยุทธศาสตร์และการต่างประเทศแห่งเมียนมา (MISIS) กล่าวว่า “ผมเคยอ่านรายงานข่าวเกี่ยวกับ ‘โรงงานอัตโนมัติเต็มรูปแบบ’ จากสื่อต่าง ๆ มาแล้วมากมาย แต่ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ผมได้มีโอกาสเยี่ยมชมสถานที่จริง”
“สายการผลิตอัจฉริยะของเราผสานรวมข้อมูลคำสั่งซื้อ วัสดุ และอุปกรณ์เข้าด้วยกัน ผ่านระบบการจดจำส่วนประกอบอัตโนมัติ การตรวจสอบสถานะการประมวลผลแบบเรียลไทม์ และการเก็บรวบรวมข้อมูลโดยอัตโนมัติ โดยพนักงานสามารถตรวจสอบกระบวนการผลิตทั้งหมดได้แบบเรียลไทม์จากหน้าจอควบคุม” หลิว หลี่ปิง (Liu Libing) ผู้ช่วยผู้จัดการทั่วไปของบริษัท เอ็กซ์เจ มิเตอริง จำกัด อธิบาย พร้อมกับเสริมว่า ภายหลังการเปลี่ยนผ่านมาใช้ระบบดิจิทัล ประสิทธิภาพการทำงานเฉลี่ยต่อพนักงานหนึ่งคนเพิ่มขึ้นถึง 7 เท่า ขณะที่รอบการส่งมอบผลิตภัณฑ์ก็สั้นลงอย่างมีนัยสำคัญ
ปัจจุบัน มิเตอร์ไฟฟ้าอัจฉริยะถือเป็นองค์ประกอบพื้นฐานของโครงข่ายไฟฟ้าอัจฉริยะและระบบการใช้ไฟฟ้าอัจฉริยะของจีน ซึ่งกำลังขยายการใช้งานออกไปในระดับสากล เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าทั่วโลก
“เราได้จัดตั้งศูนย์ระดับภูมิภาค 3 แห่งในเอเชียและยุโรป อเมริกาใต้ และแอฟริกา พร้อมทั้งร่วมมือกับ 5 ประเทศ และขยายการดำเนินงานไปยังกว่า 20 ประเทศ นอกจากนี้ เรายังนำเสนอโซลูชันระบบ AMI แบบครบวงจร และประสบความสำเร็จในการสนับสนุนการอัปเกรดโครงข่ายไฟฟ้าในหลายประเทศ” หลิว หลี่ปิง กล่าว
ประเทศจีนยังคงมุ่งมั่นที่จะแบ่งปันความสำเร็จในการพัฒนาให้กับทั่วโลกผ่านการดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรม ดังนั้น ในฐานะองค์กรชั้นนำในอุตสาหกรรมการผลิตไฟฟ้าและอุปกรณ์ไฟฟ้าของจีน บริษัท เอ็กซ์เจ อิเล็กทริก จึงได้มีส่วนร่วมพัฒนาโครงการระดับนานาชาติมากมาย เช่น โครงการระบบสายส่งกระแสตรงแรงดันสูงขนาด 660kV ระหว่างเมืองมาเตียรีกับเมืองลาฮอร์ ประเทศปากีสถาน รวมถึงโครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานลม-พลังงานแสงอาทิตย์-ระบบกักเก็บพลังงานของบริษัท ปามีร์ เอเนอร์จี (Pamir Energy Company) ในประเทศทาจิกิสถาน และโครงการสถานีไฟฟ้าย่อยเคลื่อนที่ในประเทศซาอุดีอาระเบีย เป็นต้น
“โครงการเหล่านี้ไม่เพียงแสดงให้เห็นถึงความร่วมมือทางการค้าที่ประสบความสำเร็จเท่านั้น แต่ยังสะท้อนถึงความพยายามที่เป็นรูปธรรมของจีนในการพัฒนาโครงสร้างพลังงานโลกที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและปล่อยคาร์บอนต่ำ เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้ร่วมมือกันเพื่อรับมือกับความท้าทายด้านพลังงานในระดับโลก พร้อมทั้งส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจในระดับภูมิภาคอย่างยั่งยืน” ขิ่น หม่อง ซอ กล่าว